เลิกบูชา ตำรวจฮีโร่ แล้วมาดูความจริงที่น่ารังเกียจ! รีวิว The Worst of Evil เมื่อภารกิจแฝงตัวเปลี่ยน คนดี ให้กลายเป็น สัตว์ร้าย และความรักคือยาพิษที่ฆ่าคนได้เลือดเย็นที่สุด [Review 2025]
The Worst of Evil ไม่ใช่ซีรี่ย์แอคชั่นดาดๆ ที่พระเอกเก่งเวอร์วัง แต่มันคือ โศกนาฏกรรมของลูกผู้ชาย ที่ค่อยๆ กัดกินความเป็นมนุษย์ของคุณทีละนิด เหมือนมะเร็งร้ายที่ลุกลามเงียบๆ มันตบหน้าคนดูด้วยคำถามที่ว่า ถ้าต้องเลวเพื่อจับคนเลว... เรายังเรียกตัวเองว่าคนดีได้อยู่ไหม? เตรียมตับและไตของคุณให้พร้อม เพราะงานนี้ไม่มีใครรอดออกไปแบบครบ 32 แน่นอน (โดยเฉพาะความรู้สึก)
พล็อตเรื่อง แฝงตัวสู่ดงเสือ เพื่อแลกกับยศศักดิ์จอมปลอม
กรุงโซล ปี 1995 พัคจุนโม (จีชางอุค) ตำรวจบ้านนอกยศน้อยที่มักถูกดูถูกจากครอบครัวภรรยา ตัดสินใจรับภารกิจเสี่ยงตายเพื่อพิสูจน์ตัวเอง แฝงตัวเข้าไปในแก๊งค้ายาข้ามชาติ กังนัมยูเนี่ยน เพื่อทลายเครือข่ายยานรกตัวใหม่ที่ชื่อว่า กังนัมคริสตัล
แต่ภารกิจนี้มันบ้าคลั่งกว่าที่คิด เมื่อหัวหน้าแก๊งคือ จองกีชอล (วีฮาจุน) ดีเจหนุ่มผู้ทะเยอทะยานและโหดเหี้ยม... และจุดพีคคือ ภรรยาของจุนโม ดันเป็นรักแรกของหัวหน้าแก๊งโจร!
มันไม่ใช่แค่การจับผู้ร้าย แต่มันคือ รักสามเส้าท่ามกลางดงกระสุน จุนโมต้องเล่นละครตบตา สวมบทบาทเป็นเพื่อนรักของศัตรู และค่อยๆ สูญเสียตัวตนของ ตำรวจน้ำดี ไป จนกลายเป็น อาชญากรเต็มขั้น เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ
เจาะลึก 4 ประเด็น ทำไมเรื่องนี้ถึง ดาร์ก จนแสงส่องไม่ถึง?
หลังจากดูจบ ผมกล้าพูดเลยว่านี่คือ Best K-Noir ในรอบหลายปี บทซีรี่ย์ถูกเขียนมาอย่างประณีตเพื่อทำลายล้างจิตใจคนดูโดยเฉพาะ และนี่คือเหตุผลที่คุณต้องดู
1. การแสดงแบบ Method Acting ที่ "น่ากลัว" ของ จีชางอุค
ลืมภาพ อุคจ๋า ในซีรี่ย์รอมคอมไปให้หมด เรื่องนี้เขาแสดงความเปลี่ยนแปลงของตัวละครได้ละเอียดจนน่าขนลุก จากตำรวจตาใสซื่อ ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นคนที่มีแววตาดุร้าย เกรี้ยวกราด และเต็มไปด้วยความเครียดสะสม (PTSD)
ฉากที่เขาต้องลงมือทำร้ายคนเพื่อพิสูจน์ความภักดีต่อแก๊ง หรือฉากที่เขากลับบ้านไปหาเมียแต่กลับมองหน้าเธอไม่ติด มันคือการถ่ายทอดความเจ็บปวดของคนที่ วิญญาณกำลังแตกสลาย ได้สมจริงที่สุด เขาไม่ได้เล่นเป็นคนเลว แต่เขาเล่นเป็น คนดีที่กำลังพังทลาย
2. ความสัมพันธ์แบบ Bromance ที่ "อาบยาพิษ"
ความสัมพันธ์ระหว่าง ตำรวจ(จุนโม) กับ โจร(กีชอล) ในเรื่องนี้ มันซับซ้อนยิ่งกว่าแฟนเก่า กีชอลมองจุนโมเป็นพี่น้องร่วมสาบานที่ไว้ใจที่สุด ในขณะที่จุนโมมองกีชอลเป็นแค่เหยื่อที่ต้องล่า... แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความผูกพันที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเป็นความตาย มันเริ่มทำให้เส้นแบ่งระหว่าง หน้าที่ กับ มิตรภาพ เลือนลาง
มันคือความสัมพันธ์ที่เรารู้จุดจบอยู่แล้วว่า ต้องมีคนหนึ่งตาย แต่มันบีบหัวใจตรงที่ ทั้งคู่ต่างก็เป็น เหยื่อของโชคชะตา เหมือนกัน คนนึงอยากเป็นตำรวจดีๆ อีกคนแค่อยากหลุดพ้นจากความจน
3. บรรยากาศยุค 90s ที่ "ดิบ เถื่อน และสกปรก"
งานภาพเรื่องนี้ไม่ได้สวยใสสไตล์เกาหลี แต่มันเต็มไปด้วยควันบุหรี่ แสงไฟนีออนในคลับที่มืดสลัว และเลือดสีแดงสดที่สาดกระเซ็นบนเสื้อเชิ้ตขาว ผู้กำกับใช้เทคนิคแสงเงาแบบ Film Noir (ฟิล์มนัวร์) เพื่อสื่อถึงความมืดมนในใจตัวละคร ทุกฉากต่อสู้ไม่ใช่คิวบู๊สวยงาม แต่มันคือการ ตะลุมบอนแบบหมาจนตรอก ใช้ฟันกัด ใช้นิ้วจิ้มตา ใช้ขวดฟาด มันคือความรุนแรงที่สัมผัสได้จริง
4. ตัวร้ายที่มีหัวใจ (Sympathetic Villain)
วีฮาจุน ทำให้เราเกลียดตัวร้ายไม่ลง เขาเล่นเป็นหัวหน้าแก๊งที่โหดเหี้ยมกับศัตรู แต่กลับเป็นเด็กน้อยขี้เหงาเมื่ออยู่ต่อหน้าความรัก เขาโหยหาครอบครัวและการยอมรับ ซึ่งนั่นกลายเป็น จุดอ่อน เดียวที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ การได้เห็นตัวร้ายที่รักพวกพ้องมากกว่าพระเอก มันคือการตบหน้าศีลธรรมของคนดูอย่างจัง
บทสรุป ชัยชนะที่ว่างเปล่า (Pyrrhic Victory)
ตอนจบของเรื่องนี้คือ ตำนาน ครับ มันไม่ใช่ Happy Ending และไม่ใช่ Sad Ending แต่มันคือ Empty Ending (ตอนจบที่ว่างเปล่า) พระเอกได้ทุกอย่างที่ต้องการ... ได้เลื่อนยศ ได้เกียรติยศ ได้จับโจร แต่เขาสูญเสีย ตัวเอง และ คนรัก ไปตลอดกาล
The Worst of Evil คือบทเรียนราคาแพงที่สอนว่า บางครั้งปีศาจที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่คนที่ถือปืน แต่คือเงาของตัวเราเองในกระจก ถ้าคุณจิตแข็งพอ และอยากเสพงานศิลปะที่กัดกินวิญญาณ เรื่องนี้คือ The Best of The Year ที่คุณห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
คะแนนความดำดิ่ง 10/10 (ดูจบแล้วซึมไป 3 วัน เหมือนอกหักทิพย์)
วาร์ปไปดูแบบชัดแจ๋ว (Original)
-
Disney+ HotstarExclusive
- Original Series (ภาพ 4K เสียงดีมาก)
*คำเตือน มีฉากสูบบุหรี่เยอะมาก และฉากความรุนแรงเลือดสาด ผู้ที่ไม่ชอบแนว Noir อาจจะต้องทำใจนิดนึงครับ
#TheWorstOfEvil #เดอะเวิร์สออฟอีวิล #JiChangWook #WiHaJoon #DisneyPlusTH #KoreanNoir #LumoShorts
แสดงความคิดเห็น