0
ADVERTISEMENT
ADVERTISEMENT

รีวิว The Beekeeper (นรกเรียกพ่อ) เมื่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดันไปกระตุกหนวด นักฆ่าในตำนาน! หนังแอคชั่นล้างแค้นที่สะใจที่สุดแห่งปี [Review 2025]

อย่าแหย่รังแตน! รีวิว The Beekeeper (นรกเรียกพ่อ) เมื่อ เจสัน สเตแธม เลี้ยงผึ้งอยู่ดีๆ พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ดันมาหาเรื่องใส่ตัว จนต้องเจอ ปฏิบัติการล้างบาง ที่สะใจที่สุดในรอบปี [Review 2025]

โปสเตอร์หนัง The Beekeeper (นรกเรียกพ่อ) เจสัน สเตแธม รีวิวหนังแอคชั่นล้างแค้นโดย lumoshorts.blogspot.com
วางสายโทรศัพท์จากเบอร์แปลก แล้วมาดูนี่ครับ ถ้าคุณเกลียดพวกมิจฉาชีพที่ชอบโทรมาหลอกเอาเงินคนแก่ หรือเกลียดความอยุติธรรมที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ ผมขอบอกเลยว่า The Beekeeper คือ ยาแก้ปวดหัวชั้นดี ที่จะทำให้คุณหายเครียดเป็นปลิดทิ้ง

นี่ไม่ใช่หนังแอคชั่นที่มีพล็อตซับซ้อนซ่อนเงื่อน แต่มันคือ หนังล้างแค้นแบบ Old School ที่ตรงไปตรงมา ดิบ เถื่อน และ สาแก่ใจอีช้อย ยิ่งนัก เปรียบเสมือนการดู John Wick เวอร์ชั่นคนเลี้ยงผึ้งที่เปลี่ยนจากดินสอเป็นน้ำมันเบนซิน! ถ้าคุณพร้อมจะเห็นคนเลวโดนจัดหนักแบบไม่ต้องพักหายใจ ตามพี่เจสันมาเลยครับ


พล็อตเรื่อง จากคนเลี้ยงผึ้ง สู่ นักกวาดล้างระดับพระกาฬ

อดัม เคลย์ (เจสัน สเตแธม) ชายหนุ่มผู้รักสงบที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับการเลี้ยงผึ้งและดูแลเพื่อนบ้านผู้มีพระคุณ แต่ความสงบสุขก็พังทลายเมื่อเพื่อนบ้านของเขาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจนหมดตัวและตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

ความแค้นทำให้เขาต้องขุดอดีตที่ฝังลืมกลับมาใช้อีกครั้ง เขาไม่ใช่แค่คนเลี้ยงผึ้งธรรมดา แต่คืออดีตเจ้าหน้าที่องค์กรลับ The Beekeepers ที่มีหน้าที่เด็ดหัวนางพญาผึ้งที่เน่าเฟะเพื่อรักษาสมดุลของรัง (สังคม) งานนี้บอกเลยว่า ใครขวางทางพี่... เตรียมตัวไปคุยกับรากมะม่วงได้เลย!

เจาะลึก ทำไมหนังสูตรสำเร็จเรื่องนี้ถึง "มันส์" กว่าเรื่องอื่น?

หลังจากดูจบ ผมขอสรุป 3 จุดเด่นที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นและแตกต่างจากหนังแอคชั่นดาดๆ ทั่วไปครับ

1. การระบายความโกรธแทนคนดู (Catharsis Action)

หนังเรื่องนี้ฉลาดมากที่เลือกศัตรูเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นภัยสังคมที่ทุกคนเกลียดเข้าไส้ การได้เห็นพระเอกบุกเข้าไปเผาตึก ถล่มรังโจร และกระทืบหัวหน้าแก๊งจนจมดิน มันคือความสะใจที่หาที่ไหนไม่ได้ มันเหมือนเราได้ระบายความแค้นที่สั่งสมมานานผ่านกำปั้นของพี่เจสัน ดูแล้วฟินจนอยากจะลุกขึ้นปรบมือ

2. ฉากบู๊สไตล์ "ทุบให้แหลก" (Brutal Efficiency)

สไตล์การต่อสู้ของเจสันในเรื่องนี้ไม่ใช่กังฟูสวยงาม แต่เป็นแบบ ทหารอาชีพ เน้นความรวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด ต่อยคือหัก ยิงคือตาย ไม่มีการพูดพร่ำทำเพลง ฉากแอคชั่นมีความดิบ (Raw) และหนักแน่น (Impactful) ชนิดที่ว่าดูแล้วรู้สึกเจ็บแทนตัวร้าย เสียงกระดูกหักดังกร๊อบแกร๊บคือดนตรีประกอบที่ดีที่สุดของเรื่องนี้

3. การสร้างโลกองค์กรลับ (World Building) ที่น่าสนใจ

หนังมีการปูพื้นฐานเกี่ยวกับองค์กร Beekeepers ที่ทำหน้าที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย คล้ายๆ กับสภาสูงใน John Wick แต่เน้นไปที่การ รักษาสมดุลของระบบ มากกว่าการฆ่าคน มันทำให้หนังมีมิติและความลึกซึ้งมากกว่าแค่คนบ้าไล่ฆ่าคน และเปิดโอกาสให้สร้างภาคต่อได้อีกยาวไกล

บทสรุป ควรค่าแก่การเสียเวลาไหม?

ถ้าคุณเครียดจากงาน เบื่อเจ้านาย หรือเพิ่งโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาป่วน The Beekeeper คือหนังที่คุณต้องดูครับ! มันไม่ต้องใช้สมองวิเคราะห์อะไรมาก แค่นั่งดูพี่เจสันแจกบาทาก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว

มันสอนให้รู้ว่า คนดีไม่ได้แปลว่าไม่มีเขี้ยวเล็บ และอย่าไปแหยมกับคนเงียบๆ เพราะเวลาเขาเอาจริงขึ้นมา... นรกก็แค่ชื่อน้ำพริก!

คะแนนความเดือด 9/10 (หัก 1 คะแนน ข้อหาพระเอกเก่งเกินมนุษย์ไปหน่อย ลุ้นไม่เหนื่อยเลย 555+)

ช่องทางรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ (ภาพชัด เสียงแน่น)

  • Prime Video
    - เข้าแล้ว! (มีพากย์ไทยมันส์ๆ และซับไทย)
    Recommended
  • Apple TV / Google Play
    - เช่า/ซื้อเก็บ (ภาพ 4K ชัดยันรอยตีนกาพี่เจสัน)

*คำแนะนำ เตรียมขนมขบเคี้ยวไว้เยอะๆ เพราะหนังเดินเรื่องเร็วมาก เดี๋ยวจะเคี้ยวไม่ทัน!

#TheBeekeeper #นรกเรียกพ่อ #JasonStatham #ActionMovie #PrimeVideo #LumoShorts

แสดงความคิดเห็น

รายการโปรด
บันทึกเรียบร้อย