อย่าแหย่รังแตน! รีวิว The Beekeeper (นรกเรียกพ่อ) เมื่อ เจสัน สเตแธม เลี้ยงผึ้งอยู่ดีๆ พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ดันมาหาเรื่องใส่ตัว จนต้องเจอ ปฏิบัติการล้างบาง ที่สะใจที่สุดในรอบปี [Review 2025]
วางสายโทรศัพท์จากเบอร์แปลก แล้วมาดูนี่ครับ ถ้าคุณเกลียดพวกมิจฉาชีพที่ชอบโทรมาหลอกเอาเงินคนแก่ หรือเกลียดความอยุติธรรมที่กฎหมายทำอะไรไม่ได้ ผมขอบอกเลยว่า The Beekeeper คือ ยาแก้ปวดหัวชั้นดี ที่จะทำให้คุณหายเครียดเป็นปลิดทิ้ง
นี่ไม่ใช่หนังแอคชั่นที่มีพล็อตซับซ้อนซ่อนเงื่อน แต่มันคือ หนังล้างแค้นแบบ Old School ที่ตรงไปตรงมา ดิบ เถื่อน และ สาแก่ใจอีช้อย ยิ่งนัก เปรียบเสมือนการดู John Wick เวอร์ชั่นคนเลี้ยงผึ้งที่เปลี่ยนจากดินสอเป็นน้ำมันเบนซิน! ถ้าคุณพร้อมจะเห็นคนเลวโดนจัดหนักแบบไม่ต้องพักหายใจ ตามพี่เจสันมาเลยครับ
พล็อตเรื่อง จากคนเลี้ยงผึ้ง สู่ นักกวาดล้างระดับพระกาฬ
อดัม เคลย์ (เจสัน สเตแธม) ชายหนุ่มผู้รักสงบที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับการเลี้ยงผึ้งและดูแลเพื่อนบ้านผู้มีพระคุณ แต่ความสงบสุขก็พังทลายเมื่อเพื่อนบ้านของเขาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจนหมดตัวและตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง
ความแค้นทำให้เขาต้องขุดอดีตที่ฝังลืมกลับมาใช้อีกครั้ง เขาไม่ใช่แค่คนเลี้ยงผึ้งธรรมดา แต่คืออดีตเจ้าหน้าที่องค์กรลับ The Beekeepers ที่มีหน้าที่เด็ดหัวนางพญาผึ้งที่เน่าเฟะเพื่อรักษาสมดุลของรัง (สังคม) งานนี้บอกเลยว่า ใครขวางทางพี่... เตรียมตัวไปคุยกับรากมะม่วงได้เลย!
เจาะลึก ทำไมหนังสูตรสำเร็จเรื่องนี้ถึง "มันส์" กว่าเรื่องอื่น?
หลังจากดูจบ ผมขอสรุป 3 จุดเด่นที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นและแตกต่างจากหนังแอคชั่นดาดๆ ทั่วไปครับ
1. การระบายความโกรธแทนคนดู (Catharsis Action)
หนังเรื่องนี้ฉลาดมากที่เลือกศัตรูเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นภัยสังคมที่ทุกคนเกลียดเข้าไส้ การได้เห็นพระเอกบุกเข้าไปเผาตึก ถล่มรังโจร และกระทืบหัวหน้าแก๊งจนจมดิน มันคือความสะใจที่หาที่ไหนไม่ได้ มันเหมือนเราได้ระบายความแค้นที่สั่งสมมานานผ่านกำปั้นของพี่เจสัน ดูแล้วฟินจนอยากจะลุกขึ้นปรบมือ
2. ฉากบู๊สไตล์ "ทุบให้แหลก" (Brutal Efficiency)
สไตล์การต่อสู้ของเจสันในเรื่องนี้ไม่ใช่กังฟูสวยงาม แต่เป็นแบบ ทหารอาชีพ เน้นความรวดเร็ว รุนแรง และเด็ดขาด ต่อยคือหัก ยิงคือตาย ไม่มีการพูดพร่ำทำเพลง ฉากแอคชั่นมีความดิบ (Raw) และหนักแน่น (Impactful) ชนิดที่ว่าดูแล้วรู้สึกเจ็บแทนตัวร้าย เสียงกระดูกหักดังกร๊อบแกร๊บคือดนตรีประกอบที่ดีที่สุดของเรื่องนี้
3. การสร้างโลกองค์กรลับ (World Building) ที่น่าสนใจ
หนังมีการปูพื้นฐานเกี่ยวกับองค์กร Beekeepers ที่ทำหน้าที่อยู่นอกเหนือกฎหมาย คล้ายๆ กับสภาสูงใน John Wick แต่เน้นไปที่การ รักษาสมดุลของระบบ มากกว่าการฆ่าคน มันทำให้หนังมีมิติและความลึกซึ้งมากกว่าแค่คนบ้าไล่ฆ่าคน และเปิดโอกาสให้สร้างภาคต่อได้อีกยาวไกล
บทสรุป ควรค่าแก่การเสียเวลาไหม?
ถ้าคุณเครียดจากงาน เบื่อเจ้านาย หรือเพิ่งโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาป่วน The Beekeeper คือหนังที่คุณต้องดูครับ! มันไม่ต้องใช้สมองวิเคราะห์อะไรมาก แค่นั่งดูพี่เจสันแจกบาทาก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว
มันสอนให้รู้ว่า คนดีไม่ได้แปลว่าไม่มีเขี้ยวเล็บ และอย่าไปแหยมกับคนเงียบๆ เพราะเวลาเขาเอาจริงขึ้นมา... นรกก็แค่ชื่อน้ำพริก!
คะแนนความเดือด 9/10 (หัก 1 คะแนน ข้อหาพระเอกเก่งเกินมนุษย์ไปหน่อย ลุ้นไม่เหนื่อยเลย 555+)
ช่องทางรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ (ภาพชัด เสียงแน่น)
-
Prime VideoRecommended
- เข้าแล้ว! (มีพากย์ไทยมันส์ๆ และซับไทย) -
Apple TV / Google Play
- เช่า/ซื้อเก็บ (ภาพ 4K ชัดยันรอยตีนกาพี่เจสัน)
*คำแนะนำ เตรียมขนมขบเคี้ยวไว้เยอะๆ เพราะหนังเดินเรื่องเร็วมาก เดี๋ยวจะเคี้ยวไม่ทัน!
#TheBeekeeper #นรกเรียกพ่อ #JasonStatham #ActionMovie #PrimeVideo #LumoShorts

แสดงความคิดเห็น